นครชุม เมืองเล็กๆ ในจังหวัดกำแพงเพชร อดีตมีความเจริญมากถือเป็นศูนย์กลางค้าไม้ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนล่าง

ผู้คนต่างเชื้อชาติ ไทย จีน มอญ ลาว กระเหรี่ยง เดินทางเข้ามาค้าขายและนำวัฒนธรรมหลากหลายติดมาด้วย โดยเฉพาะอาหาร

หลังจากความเจริญหลั่งไหลสู่ถนนลาดยางแทนที่สายน้ำ ความคึกคักของนครชุมก็เลือนหายไป เหลือแต่วัฒนธรรมต่างๆ ที่หลอมรวมจนเป็นวิถีชีวิตของชาวนครชุม

 

หมีเป็ดขอเชิญท่านพบกับ ทริปเที่ยวพุงกาง ณ นครชุม บัดนี้ววว

 

เราจองทริปผ่าน “สยามร้ายทราเวล” ในราคานักทดลองเที่ยว

ซึ่งเจ้าบ้านชาวนครชุม ช่วยกันคิดแผนการท่องเที่ยวเองทั้งหมด

โดยมี อพท.ประสานงานและอำนวยความสะดวก

เมื่อไปถึง พี่ป้าน้าอาต้อนรับอย่างอบอุ่น ด้วยพวงมาลัยดอกรัก น้ำใบเตย และ เมี่ยงนครชุม

 

 

เมี่ยงนครชุม อาหารที่ได้รับอิทธิพลจากลาวเวียงจันทน์

ไส้ทำจาก มะพร้าวคั่ว กระเทียม ถั่วลิสง ขิง ทอดกรอบ

บางบ้านโรยกากหมู มีสูตรและสัดส่วนต่างกันเล็กน้อย

กินคู่กับใบเมี่ยง(ใบชา)หมัก รสเปรี้ยวเฝื่อน ได้คาเฟอีนแก้ง่วง

นิยมกินหลังมื้ออาหาร และใช้เป็นของว่างสำหรับต้อนรับแขก

กินเมี่ยงไปคุยกันไป เพลิดเพลิน

อาเจ๊ชอบเจ้าเมี่ยงนี้มาก ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบกลิ่นใบเมี่ยงหมักเท่าไหร่

แต่พอกินกับไส้มะพร้าวทอด หวานกรอบมัน ช่างเข้ากันชนิดหยุดไม่อยู่

 

พร้อมแล้วออกเดิน สู่เส้นทางสายอิ่ม

 

 

ร้านขายขนมจีบแป้งสด ขนมด้วง

เวลา เปิดทุกวัน 9.00 – 15.00 โดยประมาณ

ราคา เมี่ยงลาว ไส้กรอกถั่ว กล่องละ 20.-

 

ขนมจีบแป้งสด

ทีเด็ดคือแป้งขนมจีบที่นวดด้วยมือ แล้วห่อไส้ทีละชิ้น

แป้งนุ่มมมละลาย อารมณ์คล้ายฮะเก๋า ไส้หมูสับ ใส่หน่อไม้ กุ้งแห้ง

 

ขนมด้วง

น้ำกะทิหอมเข้มข้น แป้งเหนียวหนึบเคี้ยวเพลิน

โรยงาคั่วกับน้ำตาลเพิ่มความหอมหวาน

 

ไส้กรอกถั่ว

ทำจากถั่วเขียว หมูติดมัน เครื่องแกง รมควันด้วยกากมะพร้าวจนแห้ง

แล้วย่างไฟอ่อนช้าๆ จนสุก ถ้าใช้ไฟแรงเกินไปไส้กรอกจะแตก

รสชาติคล้ายไส้อั่ว หอม เผ็ด มีความหวานมันจากถั่วนัวๆ

กินแกล้มพริกสด เพิ่มรสอร่อยจี๊ด

 

เมี่ยงลาว

เมี่ยงอีกชนิดที่ดัดแปลงจากใบชาหมัก เป็นผักกาดดอง

ห่อไส้สาคูรสเข้มหวานมัน ตัดกับผักกาดดองเปรี้ยวหวาน

ตัวไส้ใช้ถั่วลิสงคั่วใหม่สดทุกวัน หอมกรอบกร้วมๆ

โรยกระเทียมเจียวนิด แนมพริกหน่อย อร่อยครบรส

 

เดินย่อยมาอีกไม่ไกล

 

บะหมี่แป้งสด บ้านเลขที่ 125

เวลา เปิดทุกวัน 9.00 น. -14.30 น. โดยประมาณ

ราคา บะหมี่เกี๊ยวน้ำ ราคา ธรรมดา 30.- / พิเศษ 35.-

ร้านนี้ตีหมี่เองด้วยมือ ใช้ไข่แดงล้วน เส้นนุ่มมละมุนลิ้น

น้ำซุปรสธรรมชาติ หอมหัวไชเท้า กระดูกหมู ครบเครื่อง

หมูบะช่อหมักรสพอดี มีเนื้อตั้งฉ่ายกรุบๆ ให้ได้เคี้ยว

 

อาหารพื้นถิ่น

นอกจากซื้อๆ กินๆ แล้ว

พี่ป้าน้าอา ยังสอนเราทำอาหารพื้นถิ่นอีกหลายเมนู

 

ขนมผักห่อ

ขนมผักห่อ อาหารว่างชาวกะเหรี่ยง

เมื่อเดินทางเข้าป่าจะทำขนมผักห่อใส่กระทงใบตอง พกเป็นเสบียงระหว่างทาง

ทำจาก แป้งข้าวจ้าวผสมแป้งมันเล็กน้อย, เครื่องแกงพริก หอม กระเทียม กะปิ,

ต้นหอม, หมูสับ, ตั้งฉ่าย, ไข่ไก่, น้ำเปล่า

ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน นำนึ่ง

รสชาติคล้ายห่อหมก แต่ไม่มีมันกะทิ

เค็ม เผ็ดร้อนอ่อนๆ กินหน้าหนาว ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น

 

ข้าวต้มมัด

 

ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ผสมหัวกะทิ น้ำตาล เกลือ เคี่ยวไฟอ่อนจนงวด

ไส้เค็ม ทำด้วยถั่วเหลืองผัดกระเทียมพริกไทยใส่หมูสับ ปรุงรสด้วยเกลือ

ล้างมือให้เรียบร้อย ปั้นไส้เตรียมไว้

เพื่อความมั่นใจว่า ไส้เค็มจากเกลือมิใช่ขี้มือ ^^”

ไส้กล้วย พับจีบหัวท้าย ม้วนตอก 2 เส้น / ไส้เค็ม มัดแบบขี้ไต้ ลักษณะยาวเรียวพับหัวท้าย ม้วนตอก 3 เส้น

ข้าวต้มมัดเป็นขนมที่ชาวนครชุม ทำกันเป็นทุกบ้าน

นอกจากจะกวนกระยาสารท กล้วยไข่ ไปทำบุญแล้ว

ยังมีประเพณี โยนขนมข้าวต้มลงบาตร ในวันสารทไทยทุกปี

 

ต้มกะทิปลาเกลือ ใบมะขามอ่อน

ปลาเกลือก็คือปลาเค็มนี่เอง ริมแม่น้ำหาปลาได้มาก

คนโบราณจึงถนอมอาหาร ด้วยการทาเกลือตากแห้ง

แห้งชนิดที่ว่าแห้งก๋องแก๋ง เก็บไว้ได้เป็นเดือน

แต่แห้งขนาดนี้ ทำอะไรก็ไม่อร่อยเท่าเอามาแกงกะทิ

ส่วนประกอบ ปลาเค็ม เครื่องต้มยำ กะทิ มะขามเปียก ใบมะขามอ่อน ฟัก เกลือ น้ำปลา

รสชาติคล้ายต้มข่าไก่ แต่หวานมันน้อยกว่า หอมปลาเค็ม เครื่องต้มยำ

เสร็จแล้ว ลำเรียงสำรับนั่งล้อมวงกินอาหารที่ช่วยกันทำ

ซื้อแกงมาจากร้านเพิ่มอีก กะให้อิ่มจุกกันไป

มีทั้งแกงนอกหม้อ แกงฮินเล พะโล้ แกงขี้เหล็ก ฯลฯ สนุกสนานเฮฮา

 

 

ทริปนี้ใช่ว่าเราจะอิ่มอร่อยกันอย่างเดียว

สถานที่ท่องเที่ยวในนครชุม ก็มีเรื่องราวน่าสนใจไม่น้อย

จังหวัดกำแพงเพชร เป็นเมืองหน้าด่านปกป้องอาณาจักรสุโขทัยจากศัตรู จึงมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และโบราณสถานหลงเหลืออยู่มาก

นครชุมเอง ถือเป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี สร้างโดยพระเจ้าเลอไท กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์สุโขทัย

 

เริ่มต้นด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวนครชุม

 

วัดพระบรมธาตุเจดียาราม

พิกัด https://goo.gl/maps/7ikq2EbfG1x

สมัยสุโขทัยเรืองอำนาจ พระยาลิไท กษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์สุโขทัย

โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ และปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในปี พ.ศ.1900 ตามหลักฐานจากศิลาจารึก

ต่อมา แม่น้ำปิงกัดเซาะกำแพงเมือง เกิดไข้ป่าและโรคระบาดรุนแรง

พระยาลิไท ทรงสร้างเมืองใหม่ขึ้นทางตะวันออกของแม่น้ำปิง คือ ชากังราว เมืองนครชุม จึงถูกทิ้งร้างนานกว่า 300 ปี

จนเมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) เสด็จเยี่ยมญาติที่กำแพงเพชร

ทราบจากจารึกนครชุมว่า มีเจดีย์โบราณบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อยู่ริมน้ำปิง

จึงได้ให้เจ้าเมืองกำแพงเพชรบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่

โดยมีพ่อค้าไม้ชาวกะเหรี่ยงชื่อ ซงพอ(พระยาตะก่า) ออกทุนทรัพย์ในการบูรณครั้งนี้

ต่อมาได้เสียชีวิตลง พะโป้ ผู้เป็นน้องชายจึงรวบรวมทุนทรัพย์ตนเองและชาวบ้าน

บูรณปฏิสังขรณ์ต่อจนสำเร็จ

 

บ้านห้าง ร.๕

พิกัด https://goo.gl/maps/XSsdNEJVtmA2

บ้านห้าง ร.๕ คือ สำนักงานค้าไม้(ออฟฟิศ) ของ “พะโป้” เศรษฐีชาวกะเหรี่ยงผู้มั่งคั่ง

ที่ถูกยืมชื่อมาแต่งนวนิยายเรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” โดย ครูมาลัย ชูพินิจ ซึ่งเป็นชาวนครชุมเช่นกัน

ที่เรียกกันว่าบ้านห้าง ร.๕ นั้นเพราะ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เสด็จประพาสต้น ทรงแวะถ่ายภาพเรือนธุรกิจนี้ไว้

ในสมัยนั้นบ้านหลังนี้คงเปรียบได้กับ คฤหาสต์หรูหราที่ไม่ใช่เศรษฐีธรรมดาจะได้ครอบครอง

ความกว้าง 7 คูหา เดิมทีมีเรือนฝั่งซ้าย-ขวา ลักษณะเหมือนตัวยู ขนาบข้าง

ด้านหลังต่อเป็นโรงครัว ระเบียงนอกชานกว้างกว่า10เมตร

ภายในประกอบด้วย ห้องโถงใหญ่ ห้องเสมียนพนักงาน

ห้องพัสดุกองช้าง เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับช้างทุกอย่างไว้

สมัยก่อน เลี้ยงช้างไว้ 5-10 เชือก เพื่อลากจูงไม้

เดิมทีเจ้าของตั้งใจมอบบ้านหลังนี้ให้เป็นสาธารณประโยชน์ แต่กรมศิลปากรไม่สามารถรับดูแลรักษาต่อได้

เราจึงได้ชมสำนักงานค้าไม้พะโป้ แบบเรียลไทม์ จากที่เคยรุ่งเรือง กลับร่วงโรยตามเวลา

 

วัดสว่างอารมณ์

พิกัด https://goo.gl/maps/NeWSKZzDPin

เดินเลาะคลองสวนหมาก มาจากบ้านห้าง ร.๕ ไม่ไกล ทะลุเข้าด้านหลังวัดสว่างอารมณ์ เจดีย์สร้างด้วยศิลปะแบบพม่าผสมไทย

ยอดฉัตรเจดีย์ อัญเชิญมาจากเมืองมะละแหม่ง มาถึงวัดในเวลาเช้าพอดี จึงเรียกวัดนี้ว่าวัดสว่างอารมณ์

เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่ออุโมงค์ พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน ถูกขุดพบในจอมปลวกสูงใหญ่คล้ายอุโมงค์

คาดว่าสร้างขึ้นเพื่อพรางตาพม่าที่เข้ามาตีเมือง จึงเป็นที่มาของชื่อ หลวงพ่ออุโมงค์

 

ศาลเจ้าพ่อเสือ

พิกัด https://goo.gl/maps/rcecNGDbLVt

ศาลเจ้าพ่อเสือ เจ้าแม่ตู้ทอง นครชุม สถานที่ศักดิ์อีกแห่งของชาวไทยเชื้อสายจีน

ฝนตกพอดี เราเข้าไปนั่งจิบน้ำชาเพื่อความเป็นสิริมงคล และฟังประวัติความศรัทธา ของชาวนครชุมที่มีต่อศาลเจ้าพ่อเสือ

 

วัดโบราณ เขตอรัญญิก นครชุม

ในเขตอรัญญิก มีวัดเจดีย์โบราณอยู่ 7-8 แห่ง

เชื่อกันว่า สร้างไว้เป็นพุทธบูชาเมื่อมีพระนั่งสมาธิจนเป็นพระอรหันต์ที่นั่น

หนึ่งในนั้นคือวัดหนองลังกา มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดในเขตอรัญญิก

ล้อมรอบด้วยคูน้ำคั่นเขตพุทธวาส เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมตามแบบลังกาวงศ์

 

ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง

เดิมทีเจ้าของสวนปลูกกล้วยไข่อย่างเดียว แต่ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร

จึงหันมาศึกษาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน หมักปุ๋ยใช้เอง มีทั้งผักสวนครัว เพาะเห็ด ไม้ยืนต้น เลี้ยงปลา ไก่ กบ

เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ ให้ผู้ที่สนใจเข้าชม แต่ต้องนัดล่วงหน้าก่อน วันธรรมดาไม่อยู่บ้านจ้า เก็บผลผลิตใส่รถกับข้าวขาย แจกจ่ายเพื่อนบ้าน

ชีวิตดี กินผักอินทรีย์ แถมมีรายได้

 

โรงหนังเฉลิมนคร

อายุ 100 กว่าปี ก่อนฉายหนังทุกครั้ง ต้องมีการบวงสรวงก่อน

ไม่ว่าจะฉายเรื่องอุลตร้าแมน คิงคอง แม่นาก ฯลฯ ไม่งั้นจะมีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้น เป็นอันต้องย้ายมาดูหนังนอกโรงแทน…

 

เดินเล่นรอบๆ นครชุม

มีตลาดย้อนยุค อาหารการแสดงเพียบ ทุกศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ แรกของเดือน

พ่อค้าแม่ค้าแต่งตัวย้อนยุคเข้ากับบรรยากาศ ใช้ภาชนะบรรจุอาหารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รายละเอียดเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/ตลาดย้อนยุคนครชุม-253281431523449/

 

 

แถมท้าย ที่พัก

ไม้ใหญ่รีสอร์ท

พิกัด https://goo.gl/maps/X9VTkD984KJ2

ราคา ราคา 500.- รวมอาหารเช้า ชา กาแฟ ขนมปัง ข้าวกะเพราไข่ดาวรสร้อนแรง

ห้องสะอาดมาตรฐาน สงบ ร่มรื่น WIFI โอเค แม่บ้านหน้ามึนเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าดีค่ะ หลับสบาย

 

ขอแถมอีกท้าย

ร้านปูทองข้าวต้ม

พิกัด

• https://goo.gl/maps/v5iWwUQoFu52
• อยู่ติดโรงแรมชากังราวริเวอร์วิว

 

ไม่มีรูปแต่อยากแนะนำ 2 เมนู สำหรับคนรักของทอด

ไก่คั่วเค็ม 160.- กรอบเบายันกระดูก แทะสนุกชมัด เค็มๆ มันๆ

ยำหมูกรอบ 120.- หวานเปรี้ยว ไม่เผ็ดมาก คาราวะในความกรอบของหมู

ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 70 – 200 บาท

 

 

จบ (จริงๆ)

ปิดท้ายทริป ชุมชนชาวนครชุมเปิดโอกาสให้เรา ติ-ชม แผนการท่องเที่ยว ที่ชาวบ้านจัดขึ้นเองอย่างจริงใจ

ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ที่ปวดหัวกับการจัดทริป มองจากมุมผู้ประกอบการเอง ก็ไม่ง่ายเลย

โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าบ้าน ไม่ใช่นายทุน

จะทำยังไงให้บ้านของเรายังสงบสุข แต่สวยงาม เป็นหน้าเป็นตา ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชื่นชม

เที่ยวที่ไหนอย่าไปทำร้ายบ้านเค้าน้าาา บ้านใคร ใครก็รักเนอะ